บุตรชายผู้เป็นความหวังของ ครอบครัว จังหวัดชัยนาท
คนพิการ

บุตรชายผู้เป็นความหวังของ ครอบครัว จังหวัดชัยนาท

10 ปีก่อนนายสมชาย (เอ) ชายวัยทํางาน เดินทางจากบ้าน มุ่งสู่เมืองกรุง เพื่อทํางานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง เริ่มต้นทํางานเป็นลูกจ้างรายวัน ในช่วงแรกจากการทําอะไรก็ได้ เป็นจับกังเลยก็ว่าได้ ลําบากในช่วงแรก

บุตรชายผู้เป็นความหวังของ ครอบครัว จังหวัดชัยนาท

        10 ปีก่อนนายสมชาย (เอ) ชายวัยทํางาน เดินทางจากบ้าน มุ่งสู่เมืองกรุง เพื่อทํางานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง เริ่มต้นทํางานเป็นลูกจ้างรายวัน ในช่วงแรกจากการทําอะไรก็ได้ เป็นจับกังเลยก็ว่าได้ ลําบากในช่วงแรก แต่ด้วยความเป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบตามแบบฉบับชายไทย ที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จากแรงงานจับกัง จนกลายเป็นแรงงานชํานาญการชั้นยอด ยอดไม่ยอด ก็เป็นที่ไว้ใจมากให้เป็นหัวหน้าคนงาน รับเป็นค่าจ้างวันละ 550 บาท ไม่รวมโอที มีรายได้ตกเดือนละกว่า 20,000 บาทไทย เพราะเป็นคนประหยัด มัธยัสถ์ อดออม และมีความรับผิดชอบ จึงเป็นเสาหลักและส่งเสียเลี้ยงดูคนในครอบครัว 5 ชีวิต ประกอบไปด้วย บิดา อายุ 67 ปี มารดา อายุ 68 ปี หลาน อายุ 18 ปี และ อายุ 14 ปี

        ซึ่งหลานทั้ง 2 คน เกิดจากบุตรชายอีกคนของครอบครัว ซึ่งครอบครัวนี้มีบุตรชาย 2 คน แต่บุตรชายคนแรก หนีจากบ้านไปหลังจากเอาลูกทั้งสองคนมาฝากให้ที่บ้านเลี้ยงให้ สถานะในวันนั้น นายสมชาย (สมชายสมชื่อจริงๆ) คือบุตรชายอันเป็นความหวังของ ครอบครัว ถ้าช่วงเวลาหยุดไว้ได้แค่ตอนนั้น นิยามของความสุข คงถูกกําหนดด้วยชายที่มี ความสุขในตอนนั้น นายสมชาย คือ บุตรชายผู้เป็นความหวังของครอบครัว

เหล็กเส้นสุดท้าย

        ในช่วงเย็นวันหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม ก่อนที่งานเชื่อมเหล็กเส้นสุดท้ายในเย็นวันนั้นกําลังจะเสร็จทุกอย่างจะกลับ เข้าสู่สภาวะปกติเขากําลังจะได้กลับบ้านเพราะเสร็จงาน สรุปว่าเกิดอุบัติเหตุเหล็กเส้นสุดท้ายไปพาดทับสายไฟฟ้า เกิดกระแสไฟรั่ว ช็อตเขาจนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกที ชีวิตของเขาพลิกกลับทําให้เขาสูญเสียแขนทั้ง 2 ข้าง จากบุตรชาย ผู้เป็นความหวังของครอบครัว เปลี่ยนเป็นบุตรชายที่เป็นภาระของครอบครัวชีวิตพลิกผัน แม้ว่าแผลจะได้รับ การรักษาอย่างดีและและการผ่าตัดทางแพทย์จนปลอดภัยแน่นอนแล้ว แต่ได้ทิ้งแผลทางด้านจิตใจซึ่งหนักใจมากกว่าเดิม จากคนที่มีความมั่นใจ ภูมิใจ ในตนเองต้องกลับกลาย เป็นคนที่เก็บตัวและห่างเหินจากสังคม ซึ่งเหตุจากความ กลัวในหลายๆเรื่อง และเป็นภาระของครอบครัว กลัวที่จะ พบปะผู้คน จนถึงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

        ความโหดร้ายของโชคชะตา น่ามาพบกับสมาคมสาน พลังภาคีเครือข่ายจังหวัดชัยนาท เดิมทีสมาคมสานพลังภาคี มีภารกิจในการสารวจข้อมูลผู้ด้อยโอกาส โดยเน้นกลุ่มเยาวชนเป็นหลัก ดีเจต้นผู้เข้าไปสํารวจเห็นว่า ครอบครัว มีเด็กเปราะบางที่อาศัยอยู่กับตาและยายถึง 2 คน จึงลงพื้นที่สารวจและสิ่งที่เห็น นอกจากเยาวชน เปราะบางแล้ว ยังพบกับนายสมชาย ที่เป็นคนพิการแขน ขา เป็นที่ประจักษ์ในช่วงการสัมภาษณ์ 

       วันแรก คุณสมชาย แววตาบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจ สิ่งเดียวที เป็นข้อดีคือ คุณเอ ได้ทำบัตรคนพิการเพื่อรับเบี้ยยังชีพ จากเทศบาลตําบลตลุกแล้ว พี่นพดล (ดีเจต้น) นำเรื่องเข้า ที่ประชุมเวทีสานพลังภาคีเครือข่ายนำมาสู่การลงเยี่ยม ครอบครัว คุณเอ อย่างเร่งด่วน และน่าช่วยเหลือจากทีม งานสานพลังภาคี ดีเจต้น ที่เทียวไปเทียวมาบ่อยขึ้น พบว่า คุณเอ มีแววตาในบางเวลามีความหวัง คุณเอ อยู่ด้วยพลังความรักของครอบครัวแต่ยังคงหวาดกลัวและไม่มั่นใจใจอนาคต ด้วยโชคชะตาที่ไม่เป็นใจ

       เปลี่ยนความสงสัยและความหวาดกลัวเป็นความเชื่อมั่น เชื่อใจ ในความรักอันนํามาซึ่งความศรัทธาในครอบครัว หลังจากการไปมาหาสู่บ่อยๆ นํามาถึงตัวมาพบเองเลยต้องไปดูสักครั้ง สัมผัสแรกที่ขึ้นบ้าน เราได้พบอุปสรรคตั้งแต่เข้าบ้าน บันไดบ้านค่อนข้างชัน แถมมีราวจับแค่ข้างเคียง กลับมาที่ตัวคุณเอ แกคงกลัวแรงโน้มถ่วงของตัวเองเดิน เฉยๆยังไม่สามารถทรงตัวได้เลย แล้วจะขึ้นลงบันไดชั้นๆได้อย่างไร นี่คือคําตอบที่คุณเอ ไม่เคยลงจากบ้านเลยตลอด 1 ปี นอกจากเวลาที่ไป พบแพทย์ ผมถามคุณเอ แจ้งว่านอกจากจะได้เบี้ยยังชีพแล้วได้อะไรอีก ปรากฏว่าคุณเอ ไม่รู้สิทธิของคนพิการเลย 

        ในฐานะของคณะทํางานสมาคมสานพลังภาคีเครือข่ายจังหวัดชัยนาท จึงขอเริ่มทํางานด้วยการบอกถึงสิทธิคนพิการที่เข้าถึงได้ทุกคนในเบื้องต้นดังนี้ คุณเอ มีสิทธิปรับสภาพแวดล้อมคนพิการ ให้เอื้อต่อการดํารงชีวิตฟรี ในงบประมาณ 40,000 บาท จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หากคุณเอ อยากฝึกอาชีพสามารถส่งคุณเอไปฝึกอาชีพในสถานฝึกอาชีพสําหรับคนพิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเมื่อฝึกอาชีพมาแล้วคุณเอ หรือ คุณแม่ ผู้ดูแลคนพิการ สามารถกู้ยืมเงินประกอบอาชีพ ได้ขั้นสูงสุดถึง 60,000 บาท (สายตาคุณเอ เริ่มมีแววแห่งความหวังขึ้นมานิดหน่อย) และไม่ต้องห่วงนะ นอกจากคุณเอ มีครอบครัวที่รัก คุณเอ มากแล้ว คุณเอ ยังมีเราสมาคมสานพลังภาคีเครือข่ายจังหวัดชัยนาท คอยอยู่เคียงข้างเป็นลมใต้ปีก แต่เราไม่สามารถบัลดาล ทุกอย่างให้คุณเอได้หรอกนะ เราจะทําหน้าที่ของเรา คือ ผสานภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคท้องถิ่น ผลักดัน ระดมคน ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ อปท. มาช่วยเสริมพลังใจ เติมเต็มส่วนที่ขาดและพลังใจอย่างแรก คือเ ราจะปรับสภาพบันไดทางขึ้นลงบ้านที่มีราวจับ โดยช่างชุมชน เพื่อให้คุณเอ คลายความกลัวในการที่จะออกไปไหน สิ้นสุดการพูดของผม คุณเอ มีแววตาที่มีความหวัง คุณแม่เดินเข้าแล้วบอกว่าลูกต้องอยู่เพื่อเป็นความหวังของแม่นะลูก และตัวผมเองก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้อยู่หลังจากเขียนเรื่องราวนี้เสร็จมากอดคุณเอ แล้ว ผมเชื่อว่าทางเดินที่ถูกต้องของเราคือ 

        “ เปลี่ยนความสงสัยและความหวาดกลัวเป็นความเชื่อมั่น เชื่อใจเพื่อผลักดันคัวเองจากภาระเป็นพลัง โดยมีเราสมาคมสานพลังภาคี เครือข่ายจังหวัดชัยนาท เป็นลมใต้ปีก และไม่ทิ้ง ครอบครัว คุณเอไว้ ข้างหลัง คุณเอ บุตรชายที่เป็นความหวังของครอบครัว ”


หนุ่มเมืองชัยนาท

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor