“ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นต่อไป” จังหวัดพังงา
นางสาวกัลยาณี ซุงสุวรรณ เป็นคนจังหวัดสงขลา ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวซุงสุวรรณ ซึ่งแม่มีฐานะยากจน มองไกลถึงอนาคตของลูกจะต้องได้เรียนรู้มีการศึกษา มีชีวิตที่ดีกว่าที่จะอยู่กับตนเอง จึงยกลูกสาวให้เป็นลูกบุญธรรมของป้า(พี่สาวแม่) เพราะสามีป้ามีฐานะร่ำรวย เมื่อมาอยู่กับป้าก็ได้รับความรักความเอ็นดูเอาใจใส่เหมือนลูกเขาจริงๆ และก็อยู่ร่วมกันกับลูกๆของป้าเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา จนกระทั่งออกเรือนมาสร้างครอบครัวใหม่ ชีวิตก็เป็นปกติสุขไปมาหาสู่กันอยู่อย่างเช่นเดิม จวบจนเมื่อลุงและป้าได้เสียชีวิตลง ตนเองก็เป็นแค่ลูกบุญธรรม จึงไม่มีสิทธิในสมบัติใดๆ ได้อาศัยชายคามีกินมีใช้ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาแล้ว จากความผูกพันกลายเป็นความเหินห่าง
ภาคภูมิใจกับครอบครัวตนเองที่ร่วมสร้างกันมาแบบพออยู่พอกิน มีความสุข ถึงแม้จะไม่มีลูกก็ตาม จนกระทั่งสามีป่วยไม่สบาย รักษาเยียวยากันต่อเนื่องหลายปี ในที่สุดสามีก็จากไปอย่างสงบ หลังจากฌาปนกิจสามีไปแล้ว ได้ดำรงชีวิตอยู่เพียงลำพัง เคว้งคว้าง มีคนสังเกตการเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่พูด ถาม ตอบ เพียงลำพังคนเดียวได้ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร 3-4 ปีผ่านไปสังเกตเห็นบ้านชำรุดกระเบื้องมุงหลังคาแตก ประตูหน้าและหลังบ้านปลวกกินชำรุด(ตามภาพ) จึงได้สอบถามด้วยความเป็นห่วงถึงการอยู่อาศัยเป็นอย่างไร บ้านมี่ชำรุดมีความต้องการจะซ่อมไหม เมื่อมีความยินยอมให้ซ่อม สภาองค์กรชุมชนตำบลตากแดด จึงได้ใช้งบหมุนเวียนบ้านพอเพียง เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา เปลี่ยนประตูหน้าบ้าน-หลังบ้านเป็นโครงเหล็กที่งหมด เพื่อความมั่นคง แข็งแรง และได้มอบข้าวสารอาหารแห้งให้อีก(งบจากงบพลเมืองอาสาประชารัฐเครือข่ายอำเภอเมือง) สังเกตเห็นความปลื้มปิติ ยิ้มแย้ม
ปัจจุบันนางสาวกัลยาณี ซุงสุวรรณ ก็อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง ปลูกผักข้างบ้านเพื่อนำมาประกอบอาหาร ขายบ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ จึงออกไปรับจ้างบ้างในตลาดสด ที่อยู่ห่างจากบ้านไปอีกประมาณ 16 กิโลไป-กลับ โดยการจูงจักรยานที่มีสัมภาระที่ตนเองคิดว่าเป็นของมีค่าใส่ตระกร้าบรรทุกไปด้วย เป็นภาพชินตาที่พบเห็น แต่ก็โชคดีอยู่บ้างที่ได้รับงบประมาณรัฐช่วยเหลือ(ผู้สูงอายุ) ที่ช่วยประคองให้ดำรงชีวิตต่อไปได้
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor