“หน้าบ้าน หน้ามอง จิตใจแจ่มใส ใส่ใจผู้สูงวัย” จังหวัดภูเก็ต
ผู้สูงอายุ (ที่ถูกทอดทิ้ง)

“หน้าบ้าน หน้ามอง จิตใจแจ่มใส ใส่ใจผู้สูงวัย” จังหวัดภูเก็ต

“หน้าบ้าน หน้ามอง จิตใจแจ่มใส ใส่ใจผู้สูงวัย” จังหวัดภูเก็ต เรื่องราวของ 3ครอบครัว

“หน้าบ้าน หน้ามอง จิตใจแจ่มใส ใส่ใจผู้สูงวัย” จังหวัดภูเก็ต

        ผู้สูงอายุ คนที่ 1 นายเงิน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่สามารถเดินได้ ถึงแม้นว่าจะไม่ค่อยคลอง แต่ ณ ปัจจุบันไม่สามารถเดินได้ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งอาศัยในที่ดินของชาวบ้าน เป็นบ้านหลังเล็กๆ ใกล้กันมีพี่สาวอาศัยในที่ดินเดียวกัน และพี่สาวก็เป็นผู้ป่วยติดเตียงเช่นกันแต่มีลูกชาย หรือจากเพื่อนบ้านที่นำมาให้ทาน ทำให้สภาพบ้านทั้งภายใน ภายนอก ไม่เหมาะแก่การอาศัย ซึ่งสามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดเชื้อโรคได้ รวมถึงความสะอาดของคุณลุงเงินเอง ก็ไม่สามารถอาบน้ำได้เอง จึงทำให้มีกลิ่นเหม็น แต่ทว่าการดูแลนั้น มี อสม.ครอบครัวมาดูแลทุกวันเสาร์ ในการดูแล สุขภาพ การวัดความดัน การทานยา พร้อมให้การพูดคุย แต่มิสามารถทำความสะอาดทั้งหมด เมื่อเจอจึงระดมผู้มีจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ รพสต. ในกาเข้ามาทำความสะอาด บริเวณภายใน ภายนอก ตัวของคุณตา จัดระเบียบบ้านใหม่ พร้อมทั้งของใช้ที่จำเป็น เปลี่ยนใหม่ โดยระดมทั้ง แรงงาน เงิน และขอสนับสนุนสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนุ่ง ห่ม อาหาร น้ำ เสื้อผ้า ในวันนั้น เพื่อจัดระเบียบใหม่ให้กับบ้านคุณลุง และได้ประสานพูดคุยในการที่จะส่งตัวคุณลุงไปที่ บ้านพักคนชรา ซึ่งได้รับคำตอบว่าเดียวขอให้คุณลุงทำใจก่อน แล้วแต่จะบอก

ความภาคภูมิใจ

(1)    สังคมยังมีความเอื้ออาทร ยังหลงเหลือความเป็นสังคมชนบทอยู่ ถึงแม้นว่าปัจจุบันก้าวไปสู่สังคมเมือง

(2)    เครือข่ายจิตอาสามีความเข็มแข็ง

รอยยิ้ม และคำอวยพรที่คุณลุงที่เกิดขึ้นในวันนั้น ทำให้มีกำลังใจเป็นแรงพลักดันในการทำงานต่อ

ภาพก่อนปรับปรุง

 

ภาพหลังปรับปรุง

        ผู้สูงอายุ คนที่ 2 นางแก้วตา ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ที่มิมีบ้านอาศัยเป็นของตนเอง โดยได้เช่าบ้านอยู่เดือนละ 2,500 บาทต่อเดือน อาศัยอยู่กับคุณตาสามีใหม่ 2 คน และคุณยายมีลูกผู้หญิง 1 คน มีครอบครัวออกไปอยู่กับครอบครัวสามี มีลูก 1 คน คุณยายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เนื่องด้วยว่าเป็นโรคกระดูกไม่สามารถเดินและนั่งได้ เนื่องจากเจ็บกระดูก ซึ่งเพิ่งป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง และยังมิได้มีบัตรผู้พิการ ซึ่งก่อนคุณตามีรายได้ ในการที่ขายขนมจาก และรับจ้างขับรถ เพียงพอต่อการดำรงชีพ และบวกกับค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทำให้พอมีเงินเก็บ แต่ปัจจุบัน คุณตาไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ 

        เนื่องด้วยต้องดูแลคุณยายทิ้งคุณยายไม่ได้ คุณตาเล่าให้ฟังว่า บางครั้งลูกยังมาขอเงินแม่ใช้ เนื่องด้วยไม่มีเงินให้ลูกกินข้าว ไปโรงเรียน และไม่เคยมาดูแลคุณยายเลย แต่ทว่ามีเจ้าของบ้านใจดี ที่บอกว่าคุณตามีเท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น ในเรื่องของค่าเช่าบ้าน และในเรื่องของอาหารบางครั้งก็ได้ความอนุเคราะห์จากเพื่อนบ้านใกล้ๆ นำมาให้ เมื่อเจอทให้ทราบว่าทั้งคุณตาและคุณยายนั้นบากแม่ แต่บ้านที่อาศัยสะอาดมาก ทำให้ทราบว่า คุณตาดูแลเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คำพูดหนึ่งที่คุณตาพูด ก็คือ ตอนนี้ตาเป็นทุกสิ่งให้คุณยาย แม้นแต่ลูกคุณยายเองยังไม่มาดูแล ซึ่งคุณตาร้องขอในการขอเตียงคนไข้ และขอผ้าอ้อม ให้กับคุณยาย จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ รพสต.ในการลงพื้นที่ เพื่อดูแลอาการป่วย และประเมินความช่วยเหลือ จึงได้ทำหนังสือยืมจส่งเตียง ที่นอนผม เพื่อป้องกันแผลกดทับ พร้อมนำ ผ้าอ้อม ถึงยังชีพ 3 ถุง ที่ และจัดสถานที่ในการวางเตียง ให้ความรู้ในเรื่องการปฎิบัติกับคุณยายในเรื่องการพริกตัว เพื่อป้องกันแผลกดทับพร้อมการใส่ผ้าอ้อมให้คุณยาย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การพูดให้กำลังใจกับคุณตา และคุณยายทั้ง 2 ในการดำรงชีวิตและได้แนะนำในการที่ให้คุณหมอเขียนใบรับรองแพทย์เพื่อนำไปทำบัตรผู้พิการ จะได้มีเงินสนับสนุนอีกทางหนึ่ง

ความภาคภูมิใจ

1. ได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมในการทำงานประสานความช่วยเหลือจาก องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร

2. มีเครือข่ายในการทำงานภาคประชาชน โดยท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในการที่ได้มอบเตียงให้ กับ องค์การบริหารส่วนตำบล 5 เตียง โดยการติดต่อ จาก คุณอรทัย เกิดทรัพย์ ทำให้สามารถที่มีอุปกรณ์ให้กับผู้ป่วยติดเตียง

3. น้ำตาของคุณตาคุณยาย ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง และทำให้ทีมงานพลอยซาบซึ้ง และหัวใจพองโตในการที่จะดูแลประชาชนในพื้นที่

          คนที่ 3 คุณวราภรณ์ หญิงหม้ายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ และเมื่อ สามีทอดทิ้งและนำลูกสาวไปอยู่ด้วย ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่ง เป็นจิตเวช เมื่อรักษาก็จะขาดการรับประทานยา ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่ง จนทำร้ายแม่ที่อยู่ด้วย ทำให้แม่ไม่สามารถอยู่ด้วย จนทำให้อยู่คนเดียว จนทำให้ขาดการดูแลรักษา ขาดการรับประทานยา จนทำให้ไม่สามารถรักษาได้ต่อเนื่อง และเกิดอาลาวาด กับบุคคลอื่น และเข้าไปที่ โรงพยาบส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงพยาบาล ทำให้คุณหมอและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานได้ ส่งตัวไปรักษา และไม่ยอมไปกับใครซึ่งนอกจากดิฉันที่สามารถพูดคุยให้ไปหาหมอ แต่ดิฉันต้องไปด้วย จึงต้องให้ไปด้วยในการไปพบคุณหมอ และตอนนี้ก็ได้ส่งตัวไปอยู่ที่บ้านมิตรไมตรี เพราะจะได้มีเจ้าหน้าที่ดูแล

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor